สรุปเนื้อหาจากวีดีโอเปิดตัว VAXEE XE-S

1. VAXEE XE-S นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปแล้ว สถาปัตยกรรมภายในยังเปลี่ยนใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีไร้สาย , น้ำหนัก , เซ็นเซอร์ , ระบบปุ่มกด , การปรับเปลี่ยนฟังค์ชั่น , สายส่งสัญญาณ เพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้เล่นเกมส์มืออาชีพมากยิ่งขึ้น

2. VAXEE XE-S มีน้ำหนัก 60 กรัม VAXEE เคยพูดถึงเรื่องนี้หลายครั้งว่าต้องการปรับน้ำหนักลงโดยที่ยังสามารถรักษาคุณภาพเอาไว้ พวกเค้าพบว่าการทำให้เปลือกเม้าส์บางลงมีผลในขั้นตอนการเคลือบสี รวมทั้งยังส่งผลต่อคุณภาพงานประกอบและยังให้ความรู้สึกในการคลิ๊กที่ไม่สม่ำเสมอ การถอดสารเคลือบผิวหรือเปลี่ยนสายให้เล็กลงสามารถช่วยได้แต่ทาง VAXEE เชื่อว่าการเคลือบผิวที่ดีจะช่วยกันลื่นและเพิ่มความมั่นคงในการใช้งาน VAXEE ยังคงมุ่งเน้นในการรักษาคุณภาพของเม้าส์เอาไว้ให้มากที่สุด ตอนนี้พวกเค้าลดน้ำหนักสำเร็จแล้วแม้ว่าน้ำหนักในตอนนี้อาจจะยังไม่ถูกใจทุกคน แต่ยังยืนยันที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป

3. VAXEE XE-S จะใช้เซ็นเซอร์ 3950 จับคู่กับเทคโนโลยีไร้สาย 4K ของ VAXEE ที่ถูกปรับจูนมาอย่างเหมาะสม ทำให้การ Tracking ในเกมส์มีประสิทธิ์ภาพที่แม่นยำและราบลื่น โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวขนาดเล็กในพื้นที่แคบให้ความแตกต่างกับเซ็นเซอร์ 3395 สำหรับคนที่คุ้นเคยกับการใช้งาน Motion Sync เซ็นเซอร์ 3395 จะให้การตอบสนองแบบเรียลไทม์มากขึ้น ในโหมด Competitive จะใช้พลังงานมากกว่าเดิมเล็กน้อย ในขณะที่โหมด Standard ใช้พลังงานน้อยลง โดยรวมทั้ง 3950 และ 3395 มีความเสถียรของเซ็นเซอร์ที่ใกล้เคียงกันและเหมาะสำหรับการเล่นอีสปอร์ตในระดับอาชีพทั้งคู่ เข้ากันได้ดีกับพื้นผิวของแผ่นรองแบบต่างๆ หากคุณคุ้นเคยกับเม้าส์ตัวเดิมอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเม้าส์จากเรื่องการอัพเกรดเซ็นเซอร์

4. การส่งสัญญาณไร้สาย XE-S ทำได้ดีขึ้น ในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวนอย่างรุนแรง พลังการส่งสัญญาณจะถูกขยายเพื่อเพิ่มคุณภาพ และลดอาการแกว่งซึ่งเกิดจากการที่อัตรา Polling Rate ลดลงอย่างกระทันหัน โดยรวมแล้วสัญญาณไร้สายมีความเสถียรขึ้นกว่าเดิม สามารถตอบสนองได้อย่างฉันพลันด้วยความหน่วงที่น้อยที่สุด ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในเกมส์คือความเร็วในการเริ่มและหยุดการเคลื่อนไหวทำได้เร็วกว่าเดิม

5. สำหรับคนที่ใช้งานเม้าส์ XE , NP-01 , NP-01s , AX ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ 3395 และตัวรับสัญญาณ VAD02 (4K) สามารถเข้าไปที่เวปไซด์ของ VAXEE เพื่อดาวน์โหลด Firmware ตัวล่าสุดซึ่งจะทำให้การส่งข้อมูลเสถียรและตอบสนองได้ไวขึ้น

6. XE-S ใช้สวิชคลิ๊กเดียวกันกับ NP-01 , NP-01s และ AX แต่ VAXEE ได้ปรับเปลี่ยนให้ได้ความรู้สึกในการคลิ๊กที่ชัดเจนขึ้น มีความคมชัดไม่รู้สึกแข็งหรือสั่นคลอน ระยะ Pre-Travel สั้นกว่า NP-01s จะรู้สึกได้อย่างชัดเจน ทาง VAXEE ได้ทดลองระยะ Post-Travel ที่สั้นขึ้นด้วยแต่พบว่ามันทำให้แรงเด้งกลับลดลง VAXEE จึงตั้งระยะการคลิกที่เหมาะสมเพื่อรักษาแรงดีดกลับให้อยู่ในระดับที่ดี นอกจากนี้ยังลดอาการโยกซ้ายขวาของ Main Button ลง

7. เพื่อรองรับการลดน้ำหนักเม้าส์ VAXEE ได้ปรับเปลี่ยนปุ่มด้านล่างและทำการย้ายสวิชไฟ ทำให้ตอนนี้สามารถปรับเปลี่ยนค่าการใช้งานได้ด้วยมือเดียวจากนิ้วโป้ง การกดแบบสั้นใช้สำหรับการปรับแต่ง และการกดแบบยาวเพื่อสลับโหมด ค่า DPI ยังคงเหมือนเดิมที่ 400 , 800 , 1600 , 3200 แต่ Polling Rate 125hz ถูกตัดออกไปและได้เปลี่ยนเป็น 500 , 1000 , 2000 , 4000hz แทน Click Respond Speed เปลี่ยนจากตัวเลขและแทนค่าด้วยตัวอักษร L (ค่าต่ำสุด) + M (ค่ากลาง) + H (ค่าสูงสุด) เนื่องจาก VAXEE กำลังพัฒนาความเร็วตอบสนองที่ต่ำกว่าเดิม ดังนั้นการใช้ตัวเลขเพื่อแสดงจึงไม่เหมาะสมอีกต่อไป

8. VAXEE เข้าใจว่าการใช้ Driver จะช่วยให้ผู้ใช้งานตั้งค่าได้ง่ายขึ้นตามที่ต้องการ ตอนนี้กำลังพยายามพัฒนาไดร์เวอร์ที่ใช้งานง่ายและไม่เป็นภาระต่อคอมพิวเตอร์และผู้ใช้งานอยู่

9. สายส่งสัญญาณจะไม่ใช้สายถักอีกต่อไป เพราะเมื่อพิจาณาถึงความเสถียรของการส่งข้อมูล 4K ที่สูงจึงได้อัพเกรดวัสดุลวดเป็นทองแดงชุบดีบุกเพื่อให้การส่งข้อมูลมีความเสถียรมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความหนาของสายไฟหลักเพื่อป้องกันความร้อนระหว่างชาร์จ VAXEE สังเกตุเห็นว่าผู้ใช้งานมักไม่ค่อยเล่นเกมส์แบบต่อสายยกเว้นเวลาแบตเตอรี่หมด สายใหม่จึงทำจากวัสดุ TPE แม้ว่าจะแข็งและหนากว่าแต่ก็มีความเสถียรและทนทานมากขึ้น นอกจากนี้ยังปรับวิธีการชาร์จเพื่อให้สามารถชาร์จ XE-S ได้เมื่อปิดคอมหรือต่อเข้ากับอแดปเตอร์แปลงไฟ

10. VAXEE มีแผนจะขาย XE-S สำหรับคนถนัดซ้ายแต่ไม่ได้ออกจำหน่ายพร้อมกับเวอร์ชั่นปกติ มีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาส 3 ของปี 2024 และจะผลิตในจำนวนจำกัด แม้ว่าโครงการนี้จะไม่คุ้มทุนในการพัฒนาแต่ก็ยืนยันจะทำต่อไปเพื่อให้ผู้ใช้งานที่ถนัดซ้ายได้ใช้เม้าส์ของ VAXEE

11. สำหรับการแนะนำรูปทรง ทาง VAXEE จะเทียบกับ XE และ NP-01s ที่คล้ายกันในแง่ของพฤติกรรมการใช้งาน และคิดว่าแนวทางนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจความแตกต่างได้ดีขึ้น

12. XE และ XE-S มีแนวทางในการออกแบบร่วมกัน จุดสูงสุดตั้งอยู่ที่กึ่งกลาง มีด้านหลังที่โค้งลงอย่างอ่อนโยนและมีความกว้างที่เหมาะสมเพื่อความสมดุลที่สุด เมื่อลากเส้นจากจุดสูงสุดไปยังจุดที่กว้างที่สุดทั้ง 2 ด้านจะได้พื้นที่สามเหลี่ยมที่สอดรับกับฝ่ามือ XE-S เป็น XE ที่เล็กกว่าเดิม มีความยาว ความกว้าง และความสูงลดลง ในแง่ของการจับ XE ให้ความรู้สึกมั่นคง ในขณะที่ XE-S มีความยืดหยุ่นที่มากขึ้น มีปุ่ม Function เหมือนกันสำหรับตรวจสอบแบตเตอรี่่และใช้แทนปุ่ม Page Down บนแป้นพิมพ์ สามารถตั้งค่า Action ในเกมส์เช่นการสลับอาวุธได้อีกด้วย

13. ส่วนโค้งด้านซ้ายทั้ง XE-S และ NP-01S จะมีคล้ายกันซึ่งเป็นส่วนเว้าเพียงเล็กน้อยทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการวางนิ้วโป้งสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ทางด้านขวาแตกต่างกันอย่างชัดเจน NP-01S จะมีส่วนโค้งที่โดนเด่น ทำให้ผู้ใช้งาน Claw Grip มีตำแหน่งวางนิ้วที่ชัดเจน ส่วน XE-S จะเว้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยรวมเหมาะกับการใช้งานด้วยฝ่ามือ สามารถวางนิ้วในจุดที่งัดเม้าส์ขึ้นมาได้ง่าย ส่วนเว้าเล็กน้อยนี้ยังให้จุดงัดที่ปลายนิ้วสำหรับผู้ใช้งาน Claw Grip หรือ Fingertip ด้วย ทางด้านความสูงของปุ่ม XE-S จะต่ำกว่า NP-01s ปุ่มแบบต่ำจะช่วยลดการโค้งงอของนิ้วมือสามารถลดอาการเมื่อยล้าจากการใช้งานเป็นเวลานาน และ XE-S จะมีร่องนิ้วเล็กน้อยที่ปุ่มหลักในขณะที่ NP-01S ไม่มี

14. โดยรวมแล้ว XE-S จะมีด้านหลังโค้งมนมีพื้นที่สัมผัสมากกว่าและมีความยืดหยุ่น ส่วน NP-01S เม้าส์จะ Support ที่ด้านหลังมีพื้นที่สัมผัสน้อยกว่าให้ความยืดหยุ่นไม่แพ้กัน ทั้ง 2 รุ่นออกแบบมาให้ฝ่ามือสามารถครอบคลุมเม้าส์ได้ทั้งหมด